แอฟริกากำลังก้าวขึ้นมาเป็นแหล่งผลิตยางธรรมชาติ โดยที่ยางธรรมชาติจากโกตดิวัวร์ที่สอดคล้องกับกฎระเบียบของยุโรปกลายเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ข้อมูลจากองค์กรวิจัยยางระหว่างประเทศ (IRSG) ชี้ว่าในปี 2023 ประเทศโกตดิวัวร์ผลิตยางธรรมชาติได้ถึง 1.548 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2019 ที่ผลิตได้ 815,000 ตัน แซงหน้าประเทศเวียดนามขึ้นเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติอันดับ 3 ของโลก รองจากไทยและอินโดนีเซีย

กระบวนการผลิตทั้งหมดประกอบด้วย 10 ขั้นตอนหลักดังนี้ การล้างและผสม (เครื่องย่อยยาง) – การบด, การผสม, การล้าง, การนวด (เครื่องย่อยและล้างยางแบบสกรูเดี่ยว) – การรีดเป็นแผ่น (เครื่องรีดยาง) – การตัดเป็นเม็ด (เครื่องตัดเม็ดยาง) – การอบแห้ง (สายการอบแห้ง) – การตัดยาง (เครื่องตัดยางแบบดิสก์แนวนอน) – การชั่งน้ำหนัก (33.3 กก./35 กก.) – การบรรจุ (เครื่องบรรจุอัตโนมัติแบบไฮดรอลิก) – การตรวจสอบ (เครื่องตรวจจับโลหะ) – การห่อบรรจุภัณฑ์

1. มีการติดตั้งระบบครบวงจร 2. เป็นระบบอัตโนมัติ 3. มีการรับประกันปริมาณการผลิต 4. มีการรับประกันระดับคุณภาพ

ความสำเร็จสำคัญนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งของโกตดิวัวร์ในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงตำแหน่งใหม่ของประเทศในตลาดสินค้าเกษตรโลก โดยเบื้องหลังของการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของผลผลิตนี้ กฎระเบียบการตัดไม้ทำลายป่าเป็นศูนย์ (EUDR) ของสหภาพยุโรปที่จะมีผลบังคับใช้ในปลายปี 2025 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างมาก